วันศุกร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2551

รู้... หรือไม่... ว่าทำไมจึงต้องมี ปีอธิกสุรทิน ??

โดยปกติแล้ว ในหนึ่งปีนั้น โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ใช้เวลา 365 วัน ซึ่งเป็นการคำนวณอย่างคร่าวๆแต่ความจริงแล้ว ในแต่ละวันโลกเราจะใช้เวลาหมุนรอบตัวเอง เป็นเวลามากกว่า 24 ชั่วโมง คือเพิ่มขึ้นวันละ 15 นาที

ดังนั้นในเวลา 1 ปี เมื่อเราคำนวณจริงๆ แล้ว จะเป็นเวลา 365 วันกับเศษหนึ่งส่วนสี่วัน เวลาหนึ่งส่วนสี่วันนี้ในทุกๆ สี่ปี มันจะรวมกันเป็น 1 วันพอดี ดังนั้นถ้าปีไหนก็ตามซึ่งเป็นปีที่เวลาเศษหนึ่งส่วนสี่วันรวมกันครบ 1 วัน พอดี เราเรียกปีนั้นว่า ปีอธิกสุรทิน ซึ่งเป็นปีที่มี 366 วัน วันที่เพิ่มขึ้น จะเอาไปไว้ในเดือนกุมภาพันธ์จึงทำให้เดือนกุมภาพันธ์มี 29 วัน (ปกติจะมี 28 วัน)

วันพุธที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2551

5 วิธีที่ทำให้สมองฟิต

คุณเคยมีอาการอย่างนี้บ้างมั้ย

จับจ่ายไม่ได้ เพราะลืมกระดาษโน๊ตจดรายการของที่ต้องซื้อไว้ที่บ้าน
พระเอกหนังเรื่องที่ดูเมื่อวานชื่ออะไรน้า
จอดรถไว้ชั้นไหนของห้างนะ

อย่า! อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าคุณเริ่มแก่ สมองเริ่มเสื่อมแล้ว
มีวิธีฟิตสมองอย่างง่ายๆ ที่คุณทำได้ในชีวิตประจำวันมาฝากกัน จากหนังสือ “สมองฟิต ความคิดปิ๊ง”
ก่อนฟิตสมอง คุณรู้มั้ยว่า
พฤติกรรมซ้ำๆ ทำให้สมองฝ่อในโลกที่เราคาดเดาเกือบทุกอย่างได้ล่วงหน้า กิจวัตรส่วนใหญ่เป็นพฤติกรรมจากจิตใต้สำนึกที่เรากระทำโดยใช้พลังจากสมองน้อยมาก ทำให้ไม่ค่อยมีการเชื่อมโยงระหว่างเซลล์ประสาทในสมองชั้นนอก สมองจึงไม่ค่อยได้ออกกำลัง
ถ้าคุณขับรถหรือนั่งรถไปทำงานโดยใช้เส้นทางเดิมทุกวัน สมองคุณก็จะใช้ประสาทส่วนเดิมทุกวันเช่นกัน การใช้ประสาทเฉพาะส่วนนั้นๆ เป็นประจำทำให้เซลล์ส่วนนั้นแข็งแรง แต่ขณะเดียวกันประสาทส่วนอื่นๆกลับอ่อนแอเพราะถูกละเลย ผลดีก็คือ คุณเริ่มช่ำชองกับเส้นทางจาก ก ไป ข แต่ผลเสียคือ สุขภาพสมอง เพราะสมองพลาดโอกาสที่จะได้รับการกระตุ้นด้วยทัศนียภาพใหม่ๆ กลิ่นใหม่ๆ หรือเสียงใหม่ๆ ซึ่งเป็นความแปลกและหลากหลายที่จะช่วยให้เซลล์ประสาทหลายส่วนได้มีกิจกรรมออกกำลัง
ถ้าสมองได้รับสิ่งใหม่ ส่วนของสมองชั้นนอกหลายส่วนจะมีกิจกรรมมากขึ้นและหลากหลายขึ้น และเกิดการเชื่อมโยงเซลล์ประสาทสมองส่วนต่างๆในรูปแบบใหม่ ส่งผลให้มีการหลั่งสาร นิวโรโทรฟินส์ หรืออาหารสมองมากขึ้น เซลล์สมองจึงแข็งแรงขึ้น

5 วิธีฟิตสมองในตอนเช้า

1. หลับตาอาบน้ำ เปิดก็อกน้ำ ปรับความแรงหรืออุณหภูมิของน้ำโดยใช้ประสาทสัมผัสและความรู้สึก (อย่าลืมฝึกวิธีปรับอุณหภูมิให้แม่นก่อนลงมือเพื่อป้องกันน้ำร้อนลวกตัว) หลับตาใช้มือสัมผัสหาอุปกรณ์อาบน้ำ จากนั้นจึงล้างหน้า อาบน้ำหรือโกนหนวด

2.เกมสลับมือ ขยับสมอง ฝึกใช้มือข้างที่คุณไม่ถนัดแปลงฟัน หมุนฝาหลอดยาสีฟันและป้ายยาสีฟันบนแปรง อาจใช้วิธีนี้กับกิจกรรมยามเช้าอื่นๆ ...การฝึกลักษณะนี้เป็นการกระตุ้นสมองส่วนที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน ให้เริ่มสั่งการเพื่อปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ที่สมองซีกนี้ไม่ค่อยมีส่วนร่วม มีการวิจัยพบว่าการฝึกเช่นนี้ส่งผลให้วงจรและเครือข่ายสมองในส่วนเยื่อหุ้มสมองคอร์แทกซ์ที่ทำหน้าที่ควบคุม และรับส่งคำสั่งจากมือ มีการขยายตัวอย่างมากและในอัตราที่รวดเร็ว หรืออาจลองทำสิ่งต่างๆด้วยมือข้างเดียว ก็ได้

3. อยู่ในโลกไร้เสียง ปิดหูด้วยการใส่หูฟังขณะรับประทานอาหารกับครอบครัวเพื่อสัมผัสโลกเงียบ...คนใกล้ตัวคงเคยบ่นว่าคุณฟังสิ่งที่เขาพูดเพียงครึ่งเดียว ซึ่งเป็นเรื่องที่มักเกิดขึ้นตอนยุ่งอยู่ ลองฝึกตัวเองด้วยวิธีนี้จะทำให้คุณบังคับตัวเองให้ใช้ตัวช่วยอื่นในการทำกิจกรรม เช่น รู้ว่าขนมปังปิ้งที่อยู่ในเครื่องปิ้งได้ที่แล้วโดยไม่ต้องพึ่งเสียง

4. เช้าวันธรรมดาที่ไม่ธรรมดา ลองเลือกกิจกรรมต่อไปนี้หนึ่งหรือสองข้อ แต่ไม่ควรทำหมดทุกข้อในเช้าวันเดียวกัน
• สลับลำดับกิจวัตรตอนเช้า เช่น ถ้าคุณเคยแต่งตัวก่อนกินข้าว ลองเปลี่ยนมากินข้าวก่อนแต่งตัว
• ถ้าคุณเคยรับประทานกาแฟกับขนมปังทุกเช้า ลองเป็นข้าวโอ๊ตและชาสุขภาพ หรืออาหารอื่นบ้าง
• เปลี่ยนเสียงนาฬิกาปลุก เปลี่ยนรายการวิทยุ หรือทีวีไปเป็นรายการที่คุณไม่เคยฟัง รายการเด็กเป็นตัวอย่างที่ดีในการกระตุ้นสมองให้สนใจในเรื่องที่คุณเคยมองข้าม
• เปลี่ยนเส้นทางที่จะเดินทางไปทำงาน
จากการศึกษาภาพถ่ายของสมอง กิจกรรมใหม่ๆจะกระตุ้นเซลล์ประสาทที่กินพื้นที่สมองชั้นนอกในบริเวณกว้าง วิธีเติมกิจกรรมใหม่นี้จะให้ผลลดลงเมื่อกิจกรรมนั้นกลายเป็นสิ่งที่ทำเป็นกิจวัตรหรือเป็นอัตโนมัติ เนื่องจากสมองต้องใช้พลังในการทำสิ่งใหม่ๆ มากกว่าต่อนทำกิจกรรมที่ทำจนชินแล้ว

5. เซ็กซ์ สุดยอดกิจกรรมออกกำลังสมอง ความตื่นเต้นระทึกใจจากกิจกรรมแปลกใหม่ เป็นหัวใจหลักของการเร้าอารมณ์รักโดยเฉพาะในคู่สมรสที่แต่งงานมานาน เพราะช่วยให้คู่รักพบกับความท้าทายและตื่นเต้นจากประสบการณ์ทางเพศแบบใหม่ ใช้จินตนาการและดึงอารมณ์ความรู้สึกทุกส่วนออกมาปรับใช้ เช่น สวมชุดนอนผ้าไหมที่ให้ความรู้สึกสัมผัสที่เรียบลื่น โรยกลีบกุหลาบหอมกรุ่นบนเตียง นวดสัมผัสกันและกันด้วยน้ำมันหอมระเหย หรือสร้างบรรยากาศด้วยเสียงเพลงโรแมนติค
เซ็กซ์ที่ดีนับเป็นการออกกำลังสมองที่ดี ฟังดูอาจเป็นการสรรเสริญเยินยอกิจกรรมบนเตียง แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ได้เป็นการกล่าวเกินจริง เพราะในกิจกรรมร่วมรักมีการใช้ประสาทสัมผัสทุกอย่างที่ก่อให้เกิดการกระตุ้นในวงจรสมองทุกส่วนรวมทั้งวงจรที่รับรู้เรื่องอารม

วันจันทร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2551

ใครว่าวีดีโอเกม มันช่างเลวร้ายไปเสียทั้งหมด!! ไม่เชื่อต้องลบหลู่ (อย่างสุภาพและมีเหตุผล)

ไม่ขอเกริ่นให้เสียเวลา เข้าเรื่องเลยละกัน...
พ่อแม่หลายคนมักดุด่าลูก "เลิกเล่นเกมได้แล้ว เดี๋ยวสายตาก็เสียหมด" ผู้ใหญ่เวลาดุเด็กด้วยความเป็นห่วงนี่ ส่วนใหญ่จะมีท่าทางมั่นใจมากมากว่าตัวเองพูดถูก "วีดีโอเกมทำให้สายตาเสียแน่นอน อย่ามาเถียง" เอาเข้าจริงเชื่อหรือไม่คับว่า แม้แต่ในแวดวงวิทยาศาสตร์เอง บรรดานักวิจัยทั้งหลายยังตกลงไม่ได้เลย ว่าตกลงเล่นเกมเยอะๆนั้น ทำให้สายตาสั้นจริงรึป่าว?? เท่าที่ผมอ่านมา ส่วนใหญ่เค้าจะเน้นถึง ผลกระทบของการเพ่งมองอะไรใกล้ๆ เป็นระยะเวลานานๆ มากกว่านะ เช่น การอ่านนี่ตัวดีเลย ส่วนการดูทีวีหรือการเล่นวีดีโอเกม ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีผลเท่าไหร่
งานวิจัยอันนึงของอเมริกามีการเก็บข้อมูลการใช้ชีวิตของเด็ก ม.2 จำนวน 366 คน พบว่า พวกเด็กที่สายตาสั้น จะใช้เวลาในการอ่านหนังสือเรียน บวกกับหนังสืออ่านเล่นมากกว่าเด็กทั่วไปประมาณ 4 ชม.ในแต่ละอาทิตย์ ในขณะที่ ถ้าวัดกันตามจริงแล้ว เวลาเล่นเกมหรือดูทีวี เด็กสายตาปกติ กับสายตาสั้นไม่ได้มีอะไรต่างกันเลย ดังนั้น การท่องหนังสือนี่แหล่ะเป็นปัจจัยที่ร้ายแรงต่อสายตาที่สุด ยิ่งถ้าไปดูตัวเลขสถิติ ของประเทศสิงคโปร์ ประมาณ 70% ของนักศึกษามหาวิทยาลัย เป็นเด็กสายตาสั้นทั้งนั้น ถ้าเป็นคณะแพทย์ มีเด็กสายตาสั้นมากถึง 90% !!
สิ่งที่น่าตื่นเต้น มีผลการวิจัยบ่งบอกว่า วีดีโอเกมบางประเภท สามารถทำให้ผู้เล่นสายตาดีขึ้นได้ !! ดีในที่นี้ไม่ได้เกี่ยวกับสั้นไม่สั้นนะคับ แต่หมายถึงความสามารถในการประมวลภาพของสมอง ซึ่งพบว่า ผู้ที่ชอบเล่นเกมแนว 1st Shooting เช่น Counter Strike หรือ Doom เป็นประจำ จะสามารถทำแบบทดสอบที่ให้แยกแยะภาพยากๆ ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำกว่าคนปกติทั่วไป พูดง่ายๆก้อคือ การเล่นเกมช่วยเทรนสมองให้มองเห็นและแยกแยะวัตถุต่างๆได้ไวขึ้นและ ละเอียดขึ้น
สิ่งที่เด็ดยิ่งขึ้นไปอีก คืองานวิจัยล่าสุด พบว่าในบรรดา ศัลยแพทย์ที่ผ่าตัด เทคนิคการสอดกล้องเล็กๆเข้าไป แล้วบังคับใบมีดด้วยคันโยกโดยดูผ่านกล้องมอนิเตอร์(Laparoscopic Surgery) หมอที่เล่นวีดีโอเกมเป็นประจำจะมีทักษะการผ่าตัดที่เหนือชั้นกว่าหมอปกติทั่วไป ถ้าเป็นพวกเซียนเกม เมื่อทดสอบด้วยการผ่าตัดจำลอง เทียบกับหมอที่ไม่เคยเล่นเกมแล้ว พบว่า มีการทำผิดพลาดน้อยกว่าถึง 47% แต่ผ่าตัดได้รวดเร็วกว่า 39% ดังนั้นหากคุณไปโรงพยาบาลแล้วพบหมอกำลังนั่งเล่นเกมอยู่หน้าห้องผ่าตัดก้ออย่าได้แปลกใจไป เพราะถือว่าเป็นการ วอร์มอัพมือ และสายตาได้เป็นอย่างดีเลยแหล่ะ...

นี่เป็นแค่บางตัวอย่างที่เรายกมาอ้างอิงว่า วีดีโอเกมจริงๆแล้ว มันไม่ได้เลวร้ายไปเสียทั้งหมดหรอก... จิงๆนะ

วันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2551

กิจกรรมยามว่าง...บอกนิสัย

เมื่อใดที่มีเวลาว่างมากๆ คนเราก็มักจะหากิจกรรมทำไปเรื่อยๆ เพื่อเป็นการฆ่าเวลาที่เหลืออยู่ให้เกิดประโยชน์ และกิจกรรมที่คุณเลือกทำนอกจากจะเป็นประโยชน์ให้กับคุณแล้วนั้น มันก็ยังสามารถบ่งบอกนิสัยให้กับตัวคุณได้อีกเช่นกัน

-สะสมสิ่งต่างๆ หากคุณชอบสะสมสิ่งต่างๆ คุณเป็นคนที่มีความรอบรู้ในเรื่องหลากหลาย ชอบพบปะสังสรรค์ เข้ากับคนอื่นได้ดี เป็นผู้ที่ให้คำแนะนำได้อย่างน่าฟัง รู้จักทำให้ตัวเองมีความสุข และมีไหวพริบปฏิภาณที่ยอดเยี่ยม

-ถ่ายรูป คุณเป็นคนที่เข้าใจยาก อารมณ์เปลี่ยนแปลง น้ำขึ้นน้ำลง เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ไม่มีใครเดาใจถูกว่าวันนี้คุณอยู่ในอารมณ์ใด แต่เป็นคนที่มีจิตใจดี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น มีใจคอเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ใส่ใจคนรอบข้าง

-วาดรูป คุณเป็นคนที่จริงจัง ไม่ค่อยสนใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร ถือว่าตัวเองทำดีที่สุดก็พอแล้ว จิตใจค่อนข้างอ่อนไหวคล้อยตามคนอื่นได้ เป็นคนช่างฝัน มีอารมณ์ค่อนข้างฉุนเฉียว เวลาไม่ถูกใจอะไรอาจถึงขั้นปาข้าวของทีเดียว

-ดูหนัง คนที่ชอบดูหนังเป็นกิจวัตรประจำวันในยามว่างเป็นคนที่มีความสุขกับตัวเอง ไม่พึ่งพาอาศัยคนอื่นมากนัก มีสติปัญญาดี มีความคิดสร้างสรรค์ เป็นคนที่จริงใจ ชอบช่วยเหลือตัวเองในยามเดือดร้อน ค่อนข้างขี้เหงา

-ออกแบบ คุณเป็นคนที่มีการวางแผนดีในชีวิต รู้ว่าตัวเองสามารถทำอะไรได้ ไม่ทำอะไรเกินตัว พอใจในสิ่งที่ตนเองมี รับฟังความเห็นผู้อื่น ไม่เอาแต่ใจตัวเองนัก เป็นคนที่ทำสิ่งต่างๆ ด้วยการพิจารณาอย่างรอบคอบ

-เล่นกีฬา คนที่ชอบเล่นกีฬาในยามว่างเป็นคนที่กระฉับกระเฉง ใจคอสดใสร่าเริง เข้ากับคนอื่นได้อย่างดี มองโลกในแง่ดี ไม่ทำให้ตนเองและคนอื่นเดือดร้อน มีความรับผิดชอบ และกล้าคิดกล้าตัดสินใจ มีการจัดการที่ดีในการทำสิ่งต่างๆ จึงทำให้ไม่ค่อยพลาดในการทำสิ่งใดๆ

-สนใจเรื่องเทคโนโลยีและไอที เป็นคนที่มีน้ำใจกับผู้อื่น ไม่ชอบยกตนข่มท่าน มีความรู้ก็ไม่โอ้อวดให้ใครฟัง มักแสวงหาสิ่งใหม่ๆ และเพิ่มพูนความรู้ให้กับตนเองอยู่เสมอ ไม่ชอบเป็นคนตกข่าว เป็นคนร่าเริง เข้ากับคนอื่นได้ง่าย

-เดินทาง เป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวเองสูง ทำอะไรด้วยความมั่นใจ ชอบอยู่เงียบๆ ไม่ชอบจะวุ่นวายกับคนอื่นมากนัก เก็บความรู้สึก ไม่ค่อยชอบบอกความในใจกับใคร มีการวางตัวที่ดี เป็นที่พึ่งของผู้อื่นได้ในยามที่เดือดร้อน

-อ่านหนังสือ เป็นคนค่อนข้างมีโลกส่วนตัว ช่างฝัน มีจิตใจอ่อนโยน จริงใจต่อผู้อื่น เป็นที่พึ่งให้ผู้อื่นได้เป็นอย่างดี ชอบเอาความทุกข์ของผู้อื่นเป็นความทุกข์ของตนเอง ไม่ค่อยเชื่อมั่นในตนเองนัก และค่อนข้างเอาแต่ใจตัวเองในบางครั้ง

-สนใจเรื่องวิทยาศาสตร์ เป็นคนที่ทำสิ่งต่างๆ ด้วยความรอบคอบ มีความรับผิดชอบที่ดี รักความยุติธรรม เข้าใจชีวิตและความเป็นไปของโลก และสามารถรับมือกับปัญหาต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

-ดนตรีและศิลปะ มีความเพ้อฝันที่คนอื่นเข้าใจได้ไม่ง่ายนัก เพราะทุกสิ่งมีความสวยงามในตัวเองอยู่เสมอ มีจินตนาการที่ยิ่งใหญ่ ใส่ใจกับสิ่งรอบตัว ค่อนข้างช่างสังเกตและชอบให้คนที่อยู่ใกล้มีความสุข เป็นคนมีโลกส่วนตัวสูง บางครั้งไม่ชอบวุ่นวายกับใคร ชอบนั่งอยู่เงียบๆ คนเดียว






Powered By Blogger